เปิดจุดยืน “5 พรรคการเมือง” นโยบายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมจับมือเครือข่ายสุขภาพไม่สนับสนุนถูกกฎหมาย

เปิดจุดยืน “5 พรรคการเมือง” นโยบายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมจับมือเครือข่ายสุขภาพไม่สนับสนุนถูกกฎหมาย

เปิดจุดยืน “5 พรรคการเมือง” นโยบายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมจับมือเครือข่ายสุขภาพไม่สนับสนุนถูกกฎหมาย ผู้แทนพรรคการเมืองร่วมแสดงจุดยืน “บุหรี่ไฟฟ้า” อันตรายต่อเยาวชน ด้านพรรคชาติไทยพัฒนา ชูนโยบาย “สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาท” ส่วนโฆษกพรรคเสรีรวมไทย ไม่หนุนให้ถูก กม. เผยกรณีคำถามกัญชาอิสระ ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้

ชี้คนละส่วนต้องไปแก้ปัญหาที่กัญชา ส่วน พท.ชูหากเป็นรัฐบาลจะดันเป็นวาระแห่งชาติ ด้านปชป.เน้นให้ความรู้ครอบครัว ดันนักจิตวิทยา-ครูพละประจำรร.ลดอบายมุขในเด็ก ด้าน พปชร.ลั่นไม่มีวันแก้ถูกกฎหมายแน่นอน

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซ.ศูนย์วิจัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการมหกรรมฟ้าใส ครั้งที่ 13 โดย ศ. เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า การประชุมคลินิกฟ้าใสเป็นการรวมตัวของสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติ เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ สถาบันอุดมศึกษา และภาคีเครือข่ายในการควบคุมการบริโภคยาสูบรวมกว่า 1,000 องค์กร เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการควบคุมยาสูบ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การควบคุมยาสูบ การบริการช่วยเลิกบุหรี่ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง ( NCDs) โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนพรรคการเมืองต่าง ๆ มาร่วมเสวนา “นโยบายพรรคการเมือง กับสุขภาพของประชาชน ให้พ้นพิษภัยนิโคตินจากบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อร่วมผลักดันเชิงนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนของชาติ

สำหรับเวทีเสวนา “นโยบายพรรคการเมืองกับสุขภาพของประชาชนให้พ้นพิษภัยนิโคตินจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า” โดยทพ.อุดมศักดิ์ ศรีสุทิวา รองเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคเน้นนโยบายเชิงรุก มากกว่าเชิงรับ ดังนั้น การรักษาที่ดีที่สุด คือต้องป้องกันก่อนเกิดโรค ซึ่งงบประมาณการรักษาตามสิทธิต่างๆ ภายใน 1 ปีประมาณ 3.2 แสนล้านบาท หากหารออกมาเป็นรายบุคคลอยู่ที่ 4,900 บาทต่อคน แต่ทีดีอาร์ไอคาดการณืว่า 15 ปีข้างหน้าจะมีค่ารักษาพยาบาลถึง 1.4 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ จากปัญหานี้พรรคชาติไทยพัฒนาจึงมาทำนโยบายเชิงรุก ด้วยนโยบาย สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาท หมายความว่า หากภายใน 1 ปีสุขภาพดี ไม่เข้ารับการรักษาเลยจะมีเงินคืน 3,000 บาท ซึ่งหากไม่มีใครป่วยเลยจะใช้งบ 1 แสนกว่าล้านบาท ตัวเลขนี้เราทำได้ เพราะแค่ป่วยลดลงก็ช่วยทั้งสุขภาพ และค่าใช้จ่ายน้อยลง

ทพ.อุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เราเน้น ลด ละ เลิก และจะทำอย่างไรไม่ให้เยาวชนเข้าสู่วงการบุหรี่ พรรคเราชัดเจนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ที่บ้าน หรือครอบครัว ที่โรงเรียน และภาครัฐ โดยครอบครัวต้องอบอุ่น มีนโยบายสร้างศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทำให้ครอบครัวอบอุ่น เพราะหากลูกที่คลอดออกมาไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ไปอยู่กับปู่ย่าตายาย ส่วนใหญ่จะมีปัญหา จากที่เคยลงไปดูงานภาคหนึ่งพบปัญหาสังคมเยอะมาก ทั้งยาเสพติด อบายมุขทั้งหลาย ที่โรงเรียนต้องส่งเสริมให้ความรู้กับเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นตอนต้น เพราะเป็นช่วงอยากรู้อยากลอง ตรงนี้ทำได้จะป้องกันเยาวชนเข้าวงการบุหรี่มวน บุหรี่ไฟฟ้าได้ และภาครัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมาย และต้องไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า หาซื้อได้ อีกทั้ง ต้องดูแลเด็กเร่ร่อนให้เข้าสู่การศึกษา จะได้ป้องกันไม่ให้เข้าสู่วงการยาเสพติด และบุหรี่

อ่านต่อ : https://www.hfocus.org/content/2023/02/27100


พิมพ์