“อนุทิน” นำทีม สธ. ยืนหยัดไม่หนุน“ บุหรี่ไฟฟ้า” แม้ใน ครม.บางท่านพยายามทำให้ถูกกฎหมายก็ตาม

“อนุทิน” นำทีม สธ. ยืนหยัดไม่หนุน“ บุหรี่ไฟฟ้า” แม้ใน ครม.บางท่านพยายามทำให้ถูกกฎหมายก็ตาม

“อนุทิน” นำทีม สธ. ยืนหยัดไม่หนุน“ บุหรี่ไฟฟ้า” แม้ใน ครม.บางท่านพยายามทำให้ถูกกฎหมายก็ตาม “อนุทิน” ลั่น รมว.สธ. และกระทรวงสาธารณสุข ยืนหยัดไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เอาผลิตภัณฑ์ที่ทำลายสุขภาพประชาชน ยอมรับมีเพื่อน ส.ส. บางท่านพยายามแก้กฎหมาย แต่เชื่อว่า ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหนไม่ควรให้ถูกกฎหมายได้

เหตุอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมเดินหน้าร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข ปิดช่องโหว่ “บุหรี่ไฟฟ้า” เชื่อประชุมครม.เหลืออีกราว 2 สัปดาห์น่าจะทัน หากไม่ทันรักษาการก็ยังทำได้

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซ.ศูนย์วิจัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการมหกรรมฟ้าใส ครั้งที่ 13 ว่า ปัจจุบันนี้เรามีบุหรี่มวนที่สามารถจำหน่ายได้ และยังสูบได้ แต่ก็มีสิ่งที่วิตกกังวลคือ การมาถึงของบุหรี่ไฟฟ้า แม้จะยังมีกฎหมายห้าม ทั้งนำเข้าและจำหน่าย แต่ก็ยังมีการสูบอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ ทั้งผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ กลุ่มเด็กและเยาวชน ทำให้การเข้าถึงด้วยการโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีหลักความจริง คือ สูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นมะเร็ง ไม่มีสารอันตราย ทำให้เจ็บป่วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 ที่สำรวจพบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ไฟฟ้าเกือบ 80,000 คน และในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี แน่นอนว่าถ้าไม่รีบแก้ไข จะก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญขณะนี้มีความพยายามผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นของถูกกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขขอยืนยันว่า จะไม่ให้การสนับสนุนต่อการกระทำใด ที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องถูกกฎหมายแน่นอน เพราะนิโคตินไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ไม่ดีต่อสุขภาพ นำมาสู่โรคมากมาย ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน

“จากปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้กลับมีความพยายามให้บุหรี่ฟ้าถูกกฎหมาย ซึ่งครม. ก็มีคนที่พยายามผลักดันอยู่ ผมว่า ไม่ผ่านหรอก เพราะกระทรวงสาธารณสุข ไม่ยอม ไม่ใช่รมว.ไม่ยอม แต่กระทรวงฯทั้งหมด และคิดว่า รมว.สธ.คนไหนที่เข้ามา ไม่มีใครยอมหรอก หากยอมก็ต้องไปคิดแล้ว ซึ่งภาระหน้าที่ของสธ. ไม่สามารถให้มีข้อยกเว้นได้ แต่ถามว่า ทำไมบุหรี่มวนถึงขายได้ ผมก็ต้องร้องเพลงว่า จงรัก อย่าถามว่าฉันเป็นใครในอดีต เพราะผมไม่ใช่คนอนุญาตขายบุหรี่มวน หากเป็นตอนนี้อยู่ในช่วงนั้น ผมคิดว่า อาจารย์ผู้ใหญ่ไม่มีใครยอม” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งรัฐมนตรีฯ ได้พบศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา และศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ในการหารือขอให้สนับสนุนยาช่วยเลิกบุหรี่ ให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งก็มีการสนับสนุนไปแล้วนั้น แต่ขณะนี้มีเรื่องน่าห่วงเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า โดยข้อมูลวิชาการยืนยันว่า คำชวนเชื่อที่ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ก่ออันตรายต่อสุขภาพนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งองค์การอนามัยโลกก็ยืนยันข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ก็ทราบดี ว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายพอกัน ไม่ว่านิโคตินจริงหรือไม่ เมื่อมีควันออกมา แสดงว่ามีการเผาผลาญ ย่อมมีอันตราย

“ในทางกฎหมายปัจจุบันยังห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่ายอยู่ แต่ก็ยอมรับว่า มีช่องทางแอบเข้ามา เพราะพกพาเข้ามาได้ง่าย เนื่องจากขนาดเล็ก แต่อย่างน้อยตอนนี้ร้านค้าสะดวกซื้อจำหน่ายไม่ได้ ดังนั้น กฎหมายยังบังคับได้พอสมควร จริงๆ ผมเสียเพื่อนมาเยอะ บางคนรู้ว่าสนิทกัน ผู้ประกอบการบุหรี่ขอให้ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพมานัดคุย ซึ่งผลก็บอกว่า ผมพบเขา หรือแม้แต่ต้อนรับ ถ่ายรูปด้วยไม่ได้จริงๆ ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการสธ. จะมาพบกันแบบนี้ไม่ได้ ความพยายามที่จะมาในรูปแบบสมาคมฯ หรือคนที่เคารพมากๆ ไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งผมยังรักษาความบริสุทธิ์ตรงนี้ได้” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า แต่กัญชาก็ไม่ให้สูบเช่นกัน แม้จะเป็นกฎหมายตนก็ตาม จริงๆ เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่ว่าตนไม่สูบ ก็ไม่ให้ใครสูบ ตนได้ติดตามข้อมูลวิชาการ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคแล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีสารอันตรายอย่างไร ซึ่งมีแน่นอน และรับรองว่า ไม่มีทางสนับสนุน ถึงแม้รัฐมนตรีว่าการสธ.จะให้ออกข้อความว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตรายเท่าบุหรี่มวน และไม่น่ามีปัญหาการเปิดนำเข้าถูกกฎหมาย แต่อธิบดีกรมควบคุมโรค ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท่านไม่ยอมแน่นอน

“ขอให้ทุกท่าน และคนหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายในการนำนโยบายนี้ออกมาให้เป็นผลนั้น หรือเพื่อนคณะรัฐมนตรีหลายท่าน หรือสมาชิกผู้แทนราษฎร อย่าได้พยายามเลย เป็นไปไม่ได้ และกระทรวงสาธารณสุขก็ยืนหยัดไม่ให้สิ่งที่จะเป็นอันตรายเข้ามาในประเทศไทย และหากกฎหมายให้เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ หากผมมีอำนาจผมจะยกมือเห็นด้วยทั้งสองมือ ยกเท้าได้จะยกด้วย หรือมีอำนาจจะเซ็นทันที ตอนนี้อะไรที่ผมทำได้ ผมทำไปแล้วที่ปิดช่องโหว่เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ผมเสียเพื่อนไปเยอะ เพราะไม่ยอมพบกับผู้ประกอบการบุหรี่ ผมมีจรรยาบรรณในความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข”นายอนุทิน กล่าว

อ่านต่อ : https://www.hfocus.org/content/2023/02/27098


พิมพ์