ศจย.แนะสังคมหนุนรณรงค์สูบบุหรี่เสี่ยงโควิด-19 ต่อเนื่อง โพลชี้คนไทยส่วนมากตระหนัก “ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง

ศจย.แนะสังคมหนุนรณรงค์สูบบุหรี่เสี่ยงโควิด-19 ต่อเนื่อง โพลชี้คนไทยส่วนมากตระหนัก “ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง

ศจย.แนะสังคมหนุนรณรงค์สูบบุหรี่เสี่ยงโควิด-19 ต่อเนื่อง โพลชี้คนไทยส่วนมากตระหนัก “ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง รณรงค์สูบบุหรี่เสี่ยงโควิด-19 ได้ผล! ศจย.หนุนเดินหน้าต่อเนื่องตามแคมเปญวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2563 ‘ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง’ #เลิกสูบลดเสี่ยง ชวนคนไทยลด-เลิกสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด หลังผลสำรวจพบคนไทยร้อยละ 75 รู้ว่าสูบบุหรี่เสี่ยงติดไวรัสก่อโรคโควิด-19 อีกร้อยละ 85 ตระหนักบุหรี่ทำให้ปอดอักเสบจากโควิด-19 รุนแรงมากขึ้น

รวมถึงบุหรี่ช่วยแพร่กระจายโรค ป่วยแล้วรักษาหายยากกว่าคนไม่สูบ พร้อมบอกต่ออันตรายนี้แก่คนใกล้ชิด ทึ่งสิงห์อมควันร้อยละ 58 สูบลดลงหลังทราบข้อมูล ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เผยผลสำรวจ ความรู้ความเข้าใจของประชาชนที่มีต่อการสูบบุหรี่ ส่งผลต่อความเสี่ยงอันตรายป่วยร้ายแรงจากปอดติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 แบบควิก โพลล์ ทางออนไลน์ เพื่อนำข้อมูลไปใช้พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสุขภาวะ ที่เกี่ยวกับการรณรงค์ให้คนไทยเลิกสูบบุหรี่ พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่สูบและไม่สูบบุหรี่ อายุระหว่าง 21-60 ปี ทั้งเพศชายและเพศหญิง วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 40.8 และต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ร้อยละ 32.5 ที่ติดตามข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 ทราบว่าการสูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการติดไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2019 ที่ก่อโรคโควิด-19 (COVID-19) ถึงร้อยละ 75.9 และยังทราบด้วยว่าการสูบบุหรี่ทำให้ปอดอักเสบจากโรคโควิด-19 รุนแรงขึ้นถึงร้อยละ 85.3 ศ.นพ.รณชัย กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 35.8 ทราบว่าการสูบบุหรี่ในช่วงไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2019 ระบาด ทำให้ติดโรคโควิด-19 ง่ายขึ้น อีกร้อยละ 51.9 ทราบว่าการสูบบุหรี่สามารถแพร่กระจายไวรัสก่อโรคโควิด-19 ได้ง่ายและมากขึ้น จากการไอ ถ่มเสมหะหรือน้ำลาย และร้อยละ 48.1 ทราบว่าการสูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนยังมีความเข้าใจเรื่องบุหรี่ต่อสถานการณ์วิกฤตเป็นอย่างดี โดยร้อยละ 87.4 รับทราบว่าผู้สูบบุหรี่ที่ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 จะรักษาหายยากกว่าคนที่ไม่สูบ เพราะปอดเสื่อมโทรมจากบุหรี่มาก่อนแล้ว ขณะที่ประชาชนร้อยละ 70.8 พร้อมบอกต่อถึงอันตรายหากสูบบุหรี่ในช่วงสถานการณ์โรค

ระบาดวิกฤตจากไวรัสแก่คนใกล้ชิด ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่ร้อยละ 58.5 สูบลดลงหลังจากทราบข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 ที่เกี่ยวกับบุหรี่ “ผลโพลล์ที่ปรากฏนี้ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมถึงสื่อมวลชนช่วยกันเผยแพร่ให้ความรู้ ว่าการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด ในช่วงไวรัสก่อโรคโควิด-19 ระบาด จะยิ่งทำให้อาการป่วยทรุดและอาจเสียชีวิตได้นั้นมาถูกทาง ซึ่งควรถอดบทเรียนการสื่อสารที่สำเร็จนี้มาพัฒนาต่อยอด หาช่องทางเข้าถึงกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับข่าวสาร หรือรับข่าวสารแล้วยังมีพฤติกรรมสูบบุหรี่เหมือนเดิม เชื่อว่าจะช่วยสร้างสังคมปลอดบุหรี่ได้จริงในอนาคต และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะร่วมกันรณรงค์อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2563 ที่กำลังจะมาถึง โดยในปีนี้มีคำขวัญที่สอดคล้องกับสถานการณ์คือ ‘ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง’ #เลิกสูบลดเสี่ยง ทาง ศจย.ก็ขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนร่วมมือร่วมใจหยุดหรือเลิกสูบบุหรี่ในช่วงวิกฤตนี้ และตลอดไป เพื่อลดความเสี่ยงของตัวท่านเองและคนที่ท่านรักให้รอดพ้นจากเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ” ผอ.ศจย. กล่าว

Press Release:
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ข่าวเผยแพร่: วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2563 (วันที่ข่าวตีพิมพ์สามารถเผยแพร่ได้ทันที)


พิมพ์