8 เหตุผล "บุหรี่ไฟฟ้า" ไม่ควรถูกกฎหมาย

8 เหตุผล "บุหรี่ไฟฟ้า" ไม่ควรถูกกฎหมาย

8 เหตุผล "บุหรี่ไฟฟ้า" ไม่ควรถูก กม. คนสูบเจอ "ไซยาไนด์" ในปัสสาวะสูง แจง WHO ให้เก็บภาษีแค่ประเทศไม่ห้ามเมื่อวันที่ 8 พ.ค. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย จัดเวทีเสวนาวิชาการ "บุหรี่ไฟฟ้ากับคนรุ่นใหม่" หัวข้อ "รู้ไหมว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย"

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก โดย รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวในเสวนาวิชาการ "ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ควรถูกกฎหมาย" ว่า ยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย จริงๆ ก็คือบุหรี่ แต่บริษัทผู้ผลิตเปลี่ยนโฉมแต่งตัวให้เข้ากับยุคสมัย ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่มีอันตราายต่อสุขภาพจำนวนมากเป็นพันชนิด มีสารก่อมะเร็ง สารเคมี โลหะหนักต่างๆ จำนวนมาก โดยพบเจอตัวอย่างผู้ป่วยจำนวนมากทั้งในต่างประเทศและในประเทศ ที่รับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าในเวลาสั้นๆ จนไปทำลายปอด ดังนั้น ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ควรถูกกฎหมาย หากมองในมุมมองด้านสุขภาพ อันตรายบุหรี่ไฟฟ้ามีทั้งต่อตัวผู้สูบเอง คนรอบข้าง และทำให้เด็กและเยาวชนเข้ามาเสพติดนิโคตินเพิ่มขึ้น ซึ่งมีนิโคตินมากกว่าบุหรี่มวน เพราะฉะนั้น ที่บอกว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ ช่วยเลิกบุหรี่ได้ ไม่ดึงดูดเด็กหรือเยาวชน เป็นมายาคติที่บริษัทปั้นแต่งขึ้น

"บุหรี่ไฟฟ้าก็คือบุหรี่ แต่เป็นบุหรี่ที่เข้ากับยุคเรา ซึ่งจะไปสูบบุหรี่แบบเดิมไหม คงไม่ค่อยมีใครอยากสูบ เพราะรู้ว่าอันตราย กลิ่นเหม็น แต่พอปรับแต่งโฉมใหม่หลายคนก็อยากลอง จริงๆ คือบุหรี่ธรรมดา ต่างประเทศมีการรณรงค์กัน จริงๆ บุหรี่ไฟฟ้าคนขายก็คือบุหรี่ มันไม่ใช่เเหมือนแต่เป็นกลุ่มเดียวกันที่มาขาย"รศ.พญ.เริงฤดีกล่าว

รศ.พญ.เริงฤดีกล่าวอีกว่า ผลกระทบต่อสุขภาพ ความจริง 8 ข้อบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่ควรถูกกฎหมาย คือ 1.นิโคตินเป็นสารเสพติด บริษัทบุหรี่แต่งคำขึ้นมา พยายามเปรียบเทียบนิโคตินกับสารอื่นอย่างกาเฟอีน ซึ่งจริงๆ นิโคตินมีฤทธิ์เสพติดสูงมากกว่ากาเฟอีนหลายร้อยหลายพันเท่า ขึ้นสู่สมองได้เร็วมาก ไม่เกิน 7 นาที ติดง่ายเลิกยาก และที่กังวลหลายคนไม่รู้ นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าสูงกว่าบุหรี่มวน บางยี่ห้อสูงกว่าบุหรี่มวน 50 เท่า อันตรายน้อยกว่าจึงไม่น่าจริง ถ้าอายุไม่ถึง 25 ปี สมองยังเติบโตได้ หากมีสารพิษเสพติดเข้าร่างกาย จะไปทำลายการเจริญเติบโตของสมอง เราคงไม่อยากให้เกิดเช่นนั้น โดย 7 ใน 10 จะเลิกนิโคตินไม่ได้ไปตลอดชีวิต

  1. บุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีอันตรายจำนวนมาก บริษัทมักบอกว่าเป็นการสูบไอน้ำ จริงๆ ไม่ใช่ไอน้ำเปล่าธรรมดา แต่เป็นไอสเปรย์ที่มีสารเคมีออกมาจำนวนมาก สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก ฝุ่นพิษ PM 2.5 และที่เล็กกว่านั้น บริษัทบอกว่าสารเติมแต่งกลิ่น รสชาติในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเอามาผสมอาหารได้ กินได้ แต่การเอามาสูดดมเข้าคนละช่องทาง ที่กินได้ ไม่ได้แปลว่าสูดดมแล้วจะปลอดภัย สารที่ทำป๊อปคอร์นรสเนย Diacetyl กินก็ไม่เป็นอะไร แต่พอสูดเข้าปอดทำให้ปอดอักเสบรุนแรง 3.ผลต่อปอดระยะสั้นรุนแรงกว่าบุหรี่มวน เพราะบุหรี่มวนสูบระยะสั้นมักไม่ค่อยเห็นป่วยรุนแรง คนป่วยมักอายุเยอะ สูบมา 20-30 ปี เจอถุงลมโป่งพองหรือมะเร็ง แต่บุหรี่ไฟฟ้าพบแล้วไม่นานหลักเดือน 1-2 ปีก็พบปอดอักเสบรุนแรง หรืออิวาลี
  2. ผลระยะยาวยังไม่ทราบ แต่เมื่อผลระยะสั้นยิ่งกว่าบุหรี่ธรรมดา อนุมานได้หรือไม่ว่าจะอันตรายน้อยกว่า ก็คงไม่ได้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่งมีมา 10 กว่าปี แต่เรามีการแพทย์ทันสมัยทำให้พบอันตรายต่อระบบต่างๆ ทั้งปอด หัวใจ โดยกลไกมาจากนิโคติน และสารพิษที่จะเข้าไปสะสม ทำลายการสูบฉีดของหัวใจ เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ แย่ลง มีงานวิจัยว่าบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงเกิดโรคหอบหืดและถุงลมโป่งพองเพิ่มขึ้น 2 เท่า ทำลายเซลล์หลอดเลือดแดง 58% เสี่ยงเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน 2 เท่า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดโอกาสเสียชีวิตเฉียบพลันได้ นิโคตินทำลายสมองวัยรุ่นที่ยังโตไม่เต็มที่ รวมถึงมะเร็งในคนจากบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่เห็น แต่เอาหนูไปทดลอง รับไอบุหรี่ไฟฟ้า 1 ปี 1 ใน 4 หนูทดลองเป็นมะเร็งปอด ในคนจึงต้องติดตามต่อไปยาวกว่านี้ บุหรี่ไฟฟ้าทำลาย DNA ไม่ต่างจากบุหรี่มวน ทำให้เสี่ยงมะเร็ง ทำให้เสี่ยงตาบอดเพิ่ม 2 เท่า

Credit : https://mgronline.com/qol/detail/9660000042294


พิมพ์