พวกเรา ผู้แทนจากเครือข่ายควบคุมยาสูบต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเข้าร่วม การประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 22 เรื่อง “สานพลังปกป้องเด็กไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า: รอดด้วยรัฐสภา” ในวันที่ 1 – 2 สิงหาคม พ.ศ.2567 นี้ ตระหนักว่า
- บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดและสารพิษต่างๆ ส่งผลกระทบต่อทุกระบบของร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทั้งผู้สูบและผู้อยู่ใกล้ชิด โดยเฉพาะทำลายสมองและระบบประสาทของเด็ก ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นจุดเริ่มต้นในการเสพติดบุหรี่มวนหรือสารเสพติดประเภทอื่นของเด็กและเยาวชนต่อเนื่องตลอดชีวิต
- ปัจจุบันการตลาดบุหรี่ไฟฟ้ามุ่งเป้าไปที่เด็ก ด้วยรูปลักษณ์และสารปรุงแต่งกลิ่นรสที่หลากหลายของบุหรี่ไฟฟ้า สร้างความยั่วยวนใจให้มาทดลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า จนเกิดการระบาดอย่างกว้างขวางในกลุ่มเยาวชนและเด็กเล็กลงถึงระดับประถมศึกษา
- บทเรียนและประสบการณ์ของประเทศต่างๆ พบว่า มาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ คือ การห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้นภาคการเมืองจึงมีหน้าที่พิจารณากฎหมาย โดยคำนึงถึงการปกป้องเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ
สุดท้ายนี้ พวกเราตระหนักว่า การปกป้องเด็กจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถสำเร็จได้โดย บุคคลใด บุคคลหนึ่ง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ดังนั้น พวกเราจึงขอประกาศ “ปฏิญญา” ร่วมกัน ในพิธีปิด “การประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 22” นี้ว่า
หนึ่ง พวกเราจะมุ่งมั่นร่วมมือกันสนับสนุนให้ “คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” โดยขอเรียกร้องให้รัฐสภา “คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อคุ้มครองสุขภาพเด็ก และให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติ มากกว่าผลกำไรและภาษี ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ ศ. 2546
ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ จริงจัง เคร่งครัด และไม่เรียกรับผลประโยชน์
จะเฝ้าระวัง เปิดโปงกลยุทธ์การตลาดของบริษัท ผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทำการตลาดล่าเหยื่อมุ่งเป้าเยาวชน รวมทั้งกลยุทธ์การแทรกแซงนโยบายของเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านองค์กร บุคคล สื่อ ให้สังคมรับรู้
สอง พวกเราทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันส่งเสริมให้ “การไม่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เป็นค่านิยม ดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่น”
โดย
- จะเร่งรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้รู้เท่าทันพิษภัย ของบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านทุกช่องทาง
- จะสานพลังจากทุกภาคส่วน สร้างค่านิยมทางสังคมว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดปกติ อันตราย ไม่น่าชื่นชม
ทั้งนี้ ขอให้การปกป้องเด็กไทยจากพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวาระของทุกคนในชาติ