การประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิกครั้งที่13 (13th APACT 2021 Bangkok)

การประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิกครั้งที่13 (13th APACT 2021 Bangkok)

การประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิกครั้งที่13 (13th APACT 2021 Bangkok) ภาคีต้านบุหรี่ 4 พันคนทั่วโลกร่วมประชุม กำหนดอนาคตสังคมไร้ยาสูบ (Smoke free Society) อัพเดตบุหรี่เชื่อมโยงโควิด-19 ร่วมประกาศปฏิญญาเรียกร้อง 17 ข้อ พร้อมนำงานวิจัยมาปรับแผนการควบคุมยาสูบในไทย เพิ่มความเข้มแข็งของเครือข่ายโดยเฉพาะเยาวชนรับไม้ต่อ สร้างอนาคตสังคมไร้ยาสูบ


ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ (NATFT) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และอีก 12 องค์กรพันธมิตรร่วมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 13 หรือ 13th Asia Pacific Conference on Tobacco or Health (13th APACT 2021 Bangkok) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 กันยายน 2564 เป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์สตรีมมิ่ง โดยมีภาคีเครือข่ายควบคุมการ บริโภคยาสูบทั้งจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก สนใจเข้าร่วมมากกว่า 4,000 คน จาก 37 ประเทศ
ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะประธานจัดงานประชุม 13th APACT 2021 Bangkok กล่าวว่า ในการประชุม 13th APACT 2021 Bangkok ยังมีงานประชุมวิชาการที่น่าสนใจอีก 2 งาน คือ การประชุมวิชาการ 100 ปี แพทยสมาคม หรือ Medical Association of Thailand 1921 – 2021 และการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 19 หัวข้อขับเคลื่อนนโยบายควบคุมยาสูบด้วยองค์ความรู้ (TRC INTERNATIONAL CONFERENCE 2021 “Empowering Policy Implementation on Tobacco Control”) โดยในงานประชุม 13thAPACT 2021 ครอบคลุมทั้งเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้บทเรียนการทำงานด้านควบคุมยาสูบของประเทศต่างๆ การจัดการภาษี การรณรงค์ การทำความเข้าใจกับนวัตกรรมยาสูบแบบใหม่ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและอื่นๆ การรวมเครือข่ายนานาชาติ ทั้งเครือข่ายมหาวิทยาลัยแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน และเครือข่ายเยาวชน โดยมีเอกสารคัดย่อทางวิชาการ งานวิจัยมากกว่า 300 ชิ้น ซึ่งการประชุมนี้จะได้ข้อสรุปที่ใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานควบคุมบริโภคยาสูบระดับนานาชาติและของประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกันในภูมิภาคและประเทศต่อไป
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. มีความมุ่งมั่นที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมยาสูบสู่ Smoke Free Thailand เพื่อนำไปสู่ฉากทัศน์ของอนาคต Tobacco Endgame และ Smoke Free Generation เพื่อลดปริมาณการบริโภคยาสูบให้เป็นศูนย์ สถานการณ์การสูบบุหรี่ของคนไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปลดเหลือร้อยละ 17.4 ลดลงจากร้อยละ 19.1 ในปี 2560 ขณะที่ผลการดำเนินงานควบคุมยาสูบของไทยตั้งแต่ปี 2554-2560 ส่งผลให้มีคนสูบบุหรี่ลดลงเฉลี่ย 72,319 คนต่อปี โดยมีปัจจัยสำคัญที่มาจากการมีนโยบายควบคุมยาสูบที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัยที่ทันสมัย ทันสถานการณ์ ทั้งนี้ สสส. ขับเคลื่อนมาตรการสังคมไทยปลอดควันบุหรี่มาตลอดเกือบ 20 ปี มุ่งให้ความสำคัญการพัฒนางานวิจัยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการพัฒนานโยบาย การวางแผนขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด และการสื่อสารรณรงค์สังคมที่ให้ความสำคัญการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชน
รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะรองประธานเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายเพื่อการควบคุมยาสูบของไทย ได้ร่วมกันประกาศปฏิญญาเพื่อการควบคุมยาสูบ โดยมุ่งเป้าไปที่การหยุดยาสูบเพื่อหยุดการระบาดใหญ่ของโควิด 19 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินตาม 17 มาตรการ เพื่อเร่งกระบวนการ Tobacco Endgame พร้อมข้อแนะนำการลดอุปสงค์อุปทานยาสูบ ได้แก่ #1.การระดมการรณรงค์สื่อสารมวลชน ช่วยเน้นย้ำเรื่องความเสี่ยงโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นกับการสูบบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภท #2.ควรจัดประเภทผลิตภัณฑ์ยาสูบทั้งหมดรวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นและเป็นอันตรายในช่วงการระบาดใหญ่ #3.จัดให้มีบริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์ให้แก่ผู้สูบบุหรี่ที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถเข้าถึงบริการได้ทั้งกลุ่มที่กักตัวที่บ้าน หรือรักษาตัวที่โรงพยาบาล #4.จัดตั้งเครือข่ายวิชาชีพด้านสุขภาพในระดับภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างการควบคุมยาสูบในภูมิภาคให้เข้มแข็ง #5.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล หน่วยงานองค์กร และภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างสังคมปลอดควันบุหรี่ (Smoke free Society) โดยพุ่งเป้าไปที่การกำหนดให้ Tobacco Endgame ถูกบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ชาติ และเป็นวาระแห่งชาติ

https://www.facebook.com/153979438019817/posts/4311815205569532/?d=n


พิมพ์