25 มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เข้าพบสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการ ป้องกันการแทรกแซงนโยบายสาธารณสุขจากอุตสาหกรรมยาสูบ ตามหลักการมาตรา 5.3 ของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (WHO FCTC)
นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ พร้อมคณะกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะด้านการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า อาทิ
- ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการฯ
- นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ที่ปรึกษาคณะฯ
- ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย
- รศ.ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช
- นายไพศาล ลิ้มสถิตย์
- ผู้แทนจากกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
โดยได้เข้าพบ นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการฯ และคณะผู้บริหารของสำนักงาน ในการหารือ มีการนำเสนอข้อมูลที่มาและความสำคัญของมาตรา 5.3 ซึ่งเน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาสูบ พร้อมตัวอย่างการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบจากกลุ่มผลประโยชน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะ เด็กและเยาวชน
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 230 (1) สามารถ เสนอแนะให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือขั้นตอนใด ๆ ที่อาจก่อความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ได้
ภายหลังการหารือ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการออกมาตรการ หรือระเบียบเพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายสาธารณสุขจากอุตสาหกรรมยาสูบ รวมถึงมีแผนเข้าพบ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เพื่อหารือในประเด็นเดียวกัน พร้อมทั้งเข้าพบทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่
- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
- สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
- คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันปกป้องนโยบายควบคุมยาสูบและยืนยัน การคงไว้ซึ่งนโยบายห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นส่วนหนึ่งของ มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเฉพาะประเด็น เรื่องการปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า