เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2549 ที่ผ่านมาปรากฏข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ลงข่าวผลการวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่า การโฆษณาไม่มีผลต่อการบริโภคสุราของเยาวชนแต่อย่างใด การแถลงข่าวผลการวิจัยนี้ ดำเนินการโดยบริษัทนำเข้าสุรา และเกิดขึ้นก่อนหน้ากลุ่มรณรงค์งดเหล้า จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอ
จากการที่มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้นำเสนอกิจกรรม เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชนมีบทบาทในการณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา ได้แก่ การก่อตั้งชมรมคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่ โครงการพี่สอนน้อง (Teen As Teacher : TAT) และเครือข่ายเยาวชนนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (We Care) ทำให้ครูและนักเรียนที่สนใจ
เอกสารข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการเลิกบุหรี่และการบำบัดรักษาผู้ติดบุหรี่ขององค์การอนามัยโลกเป็นเครื่องมือที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญและเชื่อว่าเอกสารนี้จะเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อควบคุมยาสูบในศตวรรษที่ 21 ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมการบริโภคยาสูบ (ศจย.) เห็นความจำเป็นที่สังคมไทยควรมีเครื่องมือในการทำงาน
เมื่อได้รับการจุดประกายจากผู้ใหญ่หลายท่าน ท่านแรกคือ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานบอร์ดของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมการบริโภคยาสูบ (ศจย.) ท่านได้ชี้ให้เห็นความสำคัญที่ต้องมีฐานข้อมูลวิจัยที่มีอยู่เพื่อใช้เป็นฐานในการกำหนดทิศทางในอนาคต และอีกสองท่าน คือ นพ.หทัย ชิตานนท์ และ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
เป็นที่ทราบกันดีในวงการควบคุมการบริโภคยาสูบว่ามาตรการด้านภาษี เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมยาสูบแต่น้อยคนนัก โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่จะเข้าใจเรื่องของระบบการจัดเก็บภาษีอย่างแจ่มชัดศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล มีความยินดีอย่างยิ่งที่