นักวิชาการ ชื่นชม การบินไทย ที่เคร่งครัดต่อกฎหมาย ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

นักวิชาการ ชื่นชม การบินไทย ที่เคร่งครัดต่อกฎหมาย ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

ศจย. Press release ฮิต: 617

จากกรณีที่มีข่าว พนักงานสายการบินไทย ลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี “ขอกล่าวชื่นชมการทำงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เคร่งครัดต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า”

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การควบคุมการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าของ ประเทศไทย เป็นไปตาม “ประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2557 ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ซึ่งมีโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่นำเข้า หรือ ทั้งจำทั้งปรับกับถูกริบสินค้า และ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดนำเข้าของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการทางศุลกากรเข้าในราชอาณาจักร หรือส่งของดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรหรือนำของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลำเลียงโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ซึ่งในที่นี้ คือ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง กฎหมายศุลกากร มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน ห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ก็ตาม ซึ่งในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน เราก็มีการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน ได้แก่ ประเทศบูรไน กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สิงคโปร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และในหลายประเทศของทวีปเอเชีย เราก็มีการห้ามนำเข้า เช่น อิหร่าน จอร์แดน คูเวต เลบานอน โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย ศรีลังกา ไต้หวัน ตุรกี เติร์กเมนิสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศอิสราเอล ก็ได้ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อ Juul เพราะเห็นว่าสารนิโคตินสูงถึง 59 mg/mL ซึ่งสูงกว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ 6-30 mg และเกินมาตรฐานของสหภาพยุโรปกำหนด ในหลายประเทศก็มีความพยายามที่จะห้ามนำเข้า อย่างเช่น ฮ่องกง หรือ อินเดีย เพราะหวั่นต่อการเสพติดของเยาวชนในประเทศ ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาเองมีการสำรวจพบว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กมัธยมมากกว่าวัยอื่นและมีความชุกการใช้บุหรี่ไฟฟ้าคิดเป็น 20.8% โดยปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.2 ล้านคน ในปี 2560 เป็น 3.6 ล้านคน ภายในปี 2561 นอกจากนี้ 90% ของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มต้นก่อนอายุ 18 ปี ซึ่งส่งผลต่อการนำไปสู่การเสพยาเสพย์ติดประเภทอื่นและเป็นอันตรายต่อการพัฒนาสมองของเด็กวัยรุ่น นอกจากนี้ยังพบอันตรายจากแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้าระเบิด การระคายเคืองจากการกลืน การหายใจ การสัมผัสที่ตาและผิวหนังตลอดจนปัญหาสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพราะยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัดถึงความปลอดภัยของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุดก็พึ่งมีข่าวการฟ้องร้องกันในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่มัธยมจนเส้นเลือดในสมองแตก ร่างกายซีกซ้ายขยับไม่ได้ ดังนั้น การห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องปกติสมควร ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะนานาประเทศก็ทำกัน ไม่ใช่แค่ประเทศไทย

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ด้วยที่ยังคงมาตรการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าไว้ เพราะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการคุ้มครองสุขภาพของคนไทย ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไข ครับ”

พิมพ์