Press Release : ศจย.ห่วงไฟไหม้จากก้นบุหรี่

Press Release : ศจย.ห่วงไฟไหม้จากก้นบุหรี่

ศจย. Press release ฮิต: 1270

ศจย.ห่วงไฟไหม้จากก้นบุหรี่ทำสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินกว่าร้อยล้านบาท แนะกระทรวงสาธารณสุขเร่งออกมาตรการ “บุหรี่ปลอดไฟไหม้” ชี้จะสามารถลดจำนวนไฟไหม้จากบุหรี่ลงถึง 2 ใน 3 ของเหตุการณ์เพลิงไหม้จากก้นบุหรี่ | ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า จากกรณีข่าวไฟไหม้ป่า 50 ไร่

ที่จังหวัดสกลนคร เมื่อช่วงดึกวันที่ 27 มี.ค. 2562 การสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุในการเกิดเหตุเพลิงไหม้ อาจเกิดจากคนทิ้งก้นบุหรี่ ซึ่งปัญหาในเรื่องนี้มีการศึกษาความสูญเสียการเกิดไฟไหม้จากบุหรี่ในประเทศไทย โดยมีข้อมูลย้อนหลังในปี 2543-2545 พบว่า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สิน 335-837 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 110-280 ล้านบาท ไม่รวมผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดเจ็บ พิการ หรืองบประมาณที่รัฐต้องเสียไปในการดับเพลิง ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2557 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ในห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาลพระราม 2 ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตจากการโดนไฟคลอก โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากการสูบบุหรี่ของตัวผู้ป่วยเองจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2559 ได้เกิดเหตุไฟไหม้บริษัทบางกอกเมทัลเครทจำกัด โดยต้นเพลิงเกิดจากคนทิ้งก้นบุหรี่ริมถนนข้างบริษัท และแรงลมได้พัดเอาเปลวเพลิงลุกลามเข้ามาด้านข้างบริษัทไหม้ ทำให้เครื่องจักรถูกเพลิงไหม้ 15 เครื่อง รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถปิกอัพ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ คาดว่าเสียหายหลายสิบล้านบาท รวมทั้งการเกิดไฟไหม้ยังทำให้เกิดผลกระทบจากฝุ่นพิษ PM 2.5 โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2562 ศูนย์วอร์รูมไฟป่าจังหวัดลำปางได้รายงานสถานการณ์ไฟไหม้ในหลายพื้นที่ โดยตรวจวัดค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้ค่าเกินมาตรฐานสูง 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสูบบุหรี่ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไฟไหม้และผลที่ก่อให้เกิดฝุ่นพิษ PM 2.5 ดังนั้นเหตุการณ์เหล่านี้น่าจะเป็นอีกบทเรียนที่ทำให้เกิดการเพิ่มมาตรการดูแลและจัดการกับปัญหาไฟไหม้ที่เกิดจากก้นบุหรี่ในประเทศไทยมากขึ้น

“กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ได้เสนอมาตรการป้องกันไฟไหม้จากบุหรี่ โดยการควบคุมส่วนประกอบของบุหรี่ หรือที่เรียกว่า ‘บุหรี่ปลอดไฟไหม้’ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ได้ออกกฎเรื่องนี้แล้ว เพื่อลดเพลิงไหม้จากบุหรี่ โดยรายงานการวิจัยไฟไหม้ในประเทศสหราชอาณาจักร พบว่าบุหรี่ปลอดไฟไหม้จะสามารถลดจำนวนไฟไหม้จากบุหรี่ลงถึง 2 ใน 3 ของเหตุการณ์เพลิงไหม้จากก้นบุหรี่ และรายงานการดับเพลิงในประเทศออสเตรเลีย พบว่าประโยชน์ของบุหรี่ปลอดไฟไหม้นอกจากจะช่วยลดไฟป่าแล้ว ยังสามารถลดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ เช่น สัตว์ป่าและพันธุ์พืชหายากอีกด้วย โดยปกติบุหรี่ 1 มวนที่วางทิ้งไว้ จะต้องใช้เวลากว่า 10 นาที ในการมอดดับ มีความเสี่ยงทั้งในด้านไฟไหม้และปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายแก่ผู้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่ง ‘บุหรี่ปลอดไฟไหม้’ จะสามารถดับเองภายใน 2 นาที หากสูบไม่หมดหรือวางทิ้งไว้ จึงลดการเผาไหม้ของบุหรี่ที่วางทิ้งไว้กว่า 50%” ศ.นพ.รณชัย กล่าว

ศ.นพ.รณชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขควรเร่งออกกฎเพื่อกำหนดมาตรฐานส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบ ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ที่จะจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อลดการเผาไหม้ของมวนบุหรี่ และคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชนจากปัญหาไฟไหม้ของก้นบุหรี่

Press Release: ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)
ข่าวเผยแพร่: วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2562 (วันที่ข่าวตีพิมพ์สามารถเผยแพร่ได้ทันที) ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการ ศจย.
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ: หริสร์ ทวีพัฒนา นักวิชาการ ศจย. โทร. 061-7244411 E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

พิมพ์