ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากสถาบันสาธารณสุข ประเทศเม็กซิโก ได้ทบทวนงานวิจัย 697 ชิ้น ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ระหว่าง ค.ศ.2017-2020 ถึงความสัมพันธ์ของการมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจ และประเทศที่มาของงานวิจัย
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างถูกกฎหมาย ได้เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน อาทิ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งจากการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชน
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เปิดเผยข้อมูลล่าสุด จากบทความการประชุมวิชาการของ American Heart Association Epidemiology, Prevention, Lifestyle & Cardiometabolic Health Scientific Sessions ค.ศ.2023 ระบุถึงการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างการสูบไอบุหรี่ไฟฟ้า
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า งานวิจัยยืนยัน บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยเลิกบุหรี่มวน โดยจากการศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนที่พยายามเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งใช้ข้อมูลจากการสำรวจยาสูบของเยาวชนระดับประเทศ (National Youth Tobacco Surveys, NYTS)
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566 นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้า กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นในสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา โดยการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2564 พบว่า ประชากรไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 78,742 คน
ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าบุหรี่คร่าชีวิตประชากรโลกมากถึง 8 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนนี้ 1.2 ล้านคน คือผู้ที่สัมผัสกับ ‘ควันบุหรี่มือสอง’ (Secondhand Smoke, SHS) โดยประเมินว่า SHS คร่าชีวิตเด็กมากถึง 65,000 รายต่อปี ซึ่งเด็กมีความเสี่ยงสูงกว่า 50-100%